วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

แบบทดสอบ ม.5/5

1.ทรัพย์สินทางปัญญา  มีความหมายอย่างไร
ตอบ ทรัพย์สิน คือ วัตถุที่มีรูปร่างซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ เช่น บ้าน ที่ดิน ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เป็นต้น ปัญญา คือ ความรอบรู้ ความรู้ทั่วไปความฉลาดเกิดแต่เรียนและความคิด เมื่อรวมทั้ง 2 คำเข้าด้วยกัน ทรัพย์สินทางปัญญา จึงหมายถึงความรู้ที่เกิดจากการคิดค้นจนทำให้เกิดมีค่าขึ้นได้ หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ทรัพย์สินทางปัญญาได้แก่การที่ผู้ใดหรือคณะบุคคลใดร่วมกันประดิษฐ์คิดค้น ออกแบบ สร้างสรรค์ จนเกิดผลขึ้นมา และผลงานนั้นมีคุณค่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งงานเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม

2.สิทธิบัตร,ลิขสิทธิ์,หมายถึงอะไร แตกต่างกันอย่างไร

ตอบ 1.สิทธิบัตร หมายถึง หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์( Invention) การออกแบบ
ผลิตภัณฑ์ (Product Design)หรือผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ (Utility Model) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
2. ลิขสิทธิ์ งานหรือความคิดสร้างสรรค์ในสาขาวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม งานภาพยนตร์ หรืองานอื่นใดในแผนกวิทยาศาสตร์
ความแตกต่างสิทธิบัตร,ลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์เป็นกฎหมายที่มีไว้คุ้มครองงานสร้างสรรค์ที่มีลักษณะเป็นงานศิลปกรรม วรรณกรรม งานถ่ายภาพ งานแพร่ภาพกระจายเสียง หรืองานทางด้านศิลปะอื่นๆ ซึ่งมีระบุไว้ในพรบ.ลิขสิทธิ์
สำหรับสิทธิบัตรนั้นมีไว้เพื่อคุ้มครองงานประดิษฐ์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ หรืองานวิจัย ซึ่งจะต้องมีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสามารถผลิตได้ในระบบอุตสาหกรรมด้วย


3.เครื่องหมายการค้า หมายถึงอะไร พร้อมยกตัวอย่างรูปภาพเครื่องหมายการค้า มา5เครื่องหมาย
ตอบ  เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครอง































4.พรบ.คอมพิวเตอร์ปี2560มีว่าอย่างไรบ้าง สรุปมาเป็นข้อๆ
ตอบ
1. การฝากร้านใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
2. ส่ง SMS โฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
3. ส่ง Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ยกเว้นการกดไลค์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม
5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3
6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊ก ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด
7.สำหรับ แอดมินเพจ ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแลแล้ว จะถือเป็นผู้พ้นผิด
8. ไม่โพสต์สิ่งลามกอนาจาร ที่ทำให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้
9. การโพสเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชม อย่างให้เกียรติ
10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
11. การโพสต์ด่าว่าผู้อื่น มีกฏหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้โพสต์ได้ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
12. ไม่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
13. ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิด ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้

5.ให้นักเรียนค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์โดยนำlinkมาตอบด้านล้าง
ตอบ http://news.sanook.com/2130214/

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงาน เรื่อง ข่าวการใช้งาน IT ในทางที่ดี-ไม่ดี



ข่าว:พบช่องโหว่แบบ Open port บนแอพฯ ใน Play store กว่า 400 ตัว เสี่ยงต่อการโดน Hack




 

เนื่อหา สร้างความหวั่นใจให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตบนระบบ Android ไม่น้อย เมื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Michigan ได้ค้นพบว่า มีแอพฯ สำหรับระบบปฏิบัติการ Android ที่อยู่บน Play store กว่า 400 ตัว ที่มีช่องโหว่แบบ Open port ซึ่งเปิดทางให้มัลแวร์ต่างๆ เข้ามาโจมตีอุปกรณ์ Android ของเราได้ และที่น่าเป็นห่วงคือ แอพฯ ที่มีช่องโหว่แบบ Open port หลายตัวนั้นเป็นแอพฯ ยอดนิยมที่มียอดดาวน์โหลดเกิน 10 ล้านครั้งนั่นหมายความว่ามีผู้ใช้งานอุปกรณ์ Android นับล้านราย ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีผ่านช่องโหว่แบบ Open port แถมผู้ที่ตกเป็นเหยื่อยังไม่มีโอกาสรู้ตัวเลยว่า เราถูกเล่นงานซะแล้วเพื่อการค้นหาว่าแอพฯ ตัวไหนบ้างที่มีช่องโหว่แบบ Open port ทางนักวิจัยได้ใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อตรวจสอบแอพฯ นับแสนตัวบน Google play store และตรวจพบแอพฯ ทั้งสิ้น 410 ตัวที่มีช่องโหว่แต่ทางนักวิจัยก็ไม่ได้มีการเผยแพร่รายชื่อแอพฯ ที่มีช่องโหว่แต่อย่างใด แต่เขาก็ได้ทำการแจ้งกลับไปยังผู้พัฒนาแอพฯ ที่มีช่องโหว่เหล่านั้น เพื่อให้จัดการแก้ไข ซึ่งเราก็ได้แค่คาดหวังว่า ทางผู้พัฒนาแอพฯ จะออกการอัพเดตที่อุดช่องโหว่ Open port ในเร็ววันเพราะฉะนั้นการที่เรา อัพเดตแอพฯ ที่มีอยู่ในเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์ของเราจะโดนโจมตีด้วยมัลแวร์ หรือแฮกเกอร์ได้ครับ และแอพฯ ตัวไหนที่ติดตั้งไว้ในเครื่องแบบเปล่าประโยชน์ ไม่เคยเปิดใช้งาน ก็ควรจะถอนการติดตั้งออกไป เพื่อลดความเสี่ยงที่เราจะโดนโจมตีโดยอาศัยช่องโหว่จากแอพฯหลายคนอาจจะสงสัยว่า Open port คืออะไร? อธิบายอย่างง่ายๆ Open port คือช่องโหว่เล็กๆ ในโค้ดของแอพฯ ที่เปรียบเหมือนรอยแตกเล็กๆ บนกำแพง ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ เข้ามาล้วงข้อมูลในอุปกรณ์ของเรา และยังใช้เพื่อการติดตั้งมัลแวร์ลงบนอุปกรณ์ของเราได้ด้วย

ที่มา : https://news.thaiware.com/10271.html

เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย เห็นด้วยเพราะว่าถ้าเรายังใช้งานโดยไม่รู้ว่าแอพนั้นยังมี่ช่องโหว่อยู่เราอาจตกเป็นเหยื่อของ hacker ได้



วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พรบ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560



การ like-share แบบผิดกฎหมาย!ปี2560
 


   ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้ามีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้เรายังสามารถแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก และแชร์สิ่งต่างๆ ผ่านสื่อ Social Networkได้ง่ายเช่น Facebook , Twitter , Line , Instagram และอื่นๆปัจจุบันเรามักจะพบเห็นผู้ที่ใช้ช่องทางเหล่านี้ในทางที่ผิด


1. การส่งข้อความ ข้อมูล หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ที่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อนรำคาญใจ ไม่สามารถปฏิเสธได้หากมีการแชร์ข้อมูล หรือข้อความ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ที่สร้างความเดือดร้อนรําคาญใจ โดยที่ผู้รับไม่ยินยอม และไม่สามารถปฏิเสธ หรือบอกเลิกได้ เช่น การส่งโฆษณา แบบ Spam Mail , การฝากร้านค้า , การส่งข้อความสมัครงาน ใน inbox หรือ tag เฟซบุ๊ค เป็นต้น ผู้ใดกระทำสิ่งเหล่านี้ มีความผิดตามพรบ.คอมฯ 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท



2. เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร บิดเบือนความจริง 
ผู้ใดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น หรือการแชร์ข่าวสารที่มีบิดเบือนความจริงที่ก่อให้เกิดการตื่นตระหนกแก่ประชาชน และความเสื่อมเสียต่อ ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ , ความปลอดภัยสาธารณะ , ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลมีสิทธิ์ระงับข้อมูลนั้นๆได้ทันที ไม่มั่นใจ ไม่แชร์ หรือถ้าต้องการแชร์ ก็ขอให้แชร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือนะครับ




3.การกดไลด์แบบผิดกฏหมาย
การกดไลด์ หรือการแสดงรู้สึกในโลกโซเชียล (ชอบ ไม่ชอบ หัวเราะ ร้องไห้) โดยรวมแล้วถือว่าไม่ผิด เพราะถือว่าเป็นแสดงความคิดเห็นตามหลักของกฏหมายรัฐธรรมนูญ ยกเว้น! ข่าวสารที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถานบัน ห้ามกด! เพราะมีความผิดตาม มาตรา 112




4.การเผยแพร่ และส่งต่อภาพโป๊ เปลือย หรือลามกอนาจาร /การพนัน
ผู้ใดแบ่งปัน แชร์-ส่งต่อ รูปภาพ และวีดีทัศน์ที่ส่อไปในทางโป๊ เปลือย หรือเป็นกระตุ้นทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่น การส่งต่อภาพ หรือวิดีโอลามกอนาจาร , การ Live สด! ที่แสดงออกถึงการมีเพศสัมพันธ์-เต้นวาบหวิว , การพนันฟุตบอล สิ่งเหล่านี้มีความผิดตามพรบ.คอมฯ 2560 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลมีสิทธิ์ระงับได้ทันที




5.การตัดต่อภาพ หรือดัดแปลงข้อมูลของผู้อื่นในทางเสื่อมเสีย /การแชร์ภาพผู้เสียชีวิต
ผู้ใดนำภาพที่สร้างขึ้นโดยการ ตัดต่อ ต่อเติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วนำไปแชร์ หรือส่งต่อ อันเป็นทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือเกิดความอับอาย รวมไปถึงภาพของผู้เสียชีวิตทำให้เสื่อมเสียเกียรติ มีโทษระวางจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ศาลมีสิทธิ์ที่จะระงับ หรือลบข้อมูลนั้นๆได้



6. การค้าขาย หรือส่งต่อโปรแกรมที่สร้างขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาติ /ละเมิดสิทธิทางปัญญา
ผู้ใดทำการค้าขาย หรือแบ่งปันชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด อาทิ โปรแกรมแฮกระบบคอมพิวเตอร์ , การส่งต่อเพลง/ภาพยนตร์/สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธ์ทางปัญญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากประเด็นที่ได้นำเสนอเกี่ยวกับ การกดไลด์ แชร์ ส่งต่อ ที่มีความผิดตามกฏหมาย





แหล่งอ้างอิง http://www.thai-hotnews.com/news/50457























วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ใบงานเรื่องบริการต่างของอินเตอร์เน็ต


บริการต่างๆบนอินเทอร์เน็ต

บริการบนอินเทอร์เน็ต เป็นบริการเพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการสื่อสารของผู้ใช้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม และองค์กร ในปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการแบ่งปันความคิด ข้อมูล สารสนเทศ รวมถึงความรู้ โดยอาศัยเครื่องมือ เทคโนโลยีหรือบริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต 


1. World Wide Web (WWW) เครือข่ายใยแมงมุม
เป็นการเข้าสู่ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรูปของ Interactive Multimedia คือ มีทั้งรูปภาพ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดีโอ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ระบบที่เรียกว่า hypertext กล่าวคือ จะมีคำสำคัญหรือรูปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่าน เข้าสู่รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิ่งขึ้น



2. จดหมายอิเลคทรอนิกส์ (Electronic Mail)
จดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือที่เรียกกันว่า E-mailเป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมากเนื่องจากผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้รวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงานเดียวกันหรืออยู่ห่างกันคนละมุมโลกก็ตาม
องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบด้วย
1. ชื่อผู้ใช้ (User name)
2. ชื่อโดเมน Username@domain_name



3.Instant Message (บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต )
Instant Messaging ก็คือการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างหนึ่งแต่เป็นในรูปของตัวอักษร พนักงานในบริษัททั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างใช้ IM เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร สำหรับคนอีกจำนวนมาก IM คือการสื่อสารสำรองเมื่ออีเมล์มีปัญหาหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ



ใบงานที่1 เรื่อง INTERNET

1.Internet หมายถึง
ตอบ  เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน โดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกัน นั่นก็คือ TCP/IP Protocol ซึ่งเป็นข้อกำหนดวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอลนี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันสามารถติดต่อถึงกันได้



2.ประวัติความเป็นมาของInternet
ตอบhttp://jirapron58.blogspot.com/




3ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ตอบ มี 5 ประเภท
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up
เป็นการเชื่อมต่อในอินเตอร์เน็ตในยุคแรกโดยใช้คอมพิวเตอร์บุคคลกับโทรศัพท์บ้าน
ข้อดี ของการเชื่อมต่อแบบ Dial Up คือ
อุปกรณ์มีราคาถูก
การติดตั้งง่าย
การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย
ข้อเสีย คืออัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียง

2.การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network)
เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกัน
คือการเชื่อมต่อแบบ ISDNเป็นการเชื่อมต่อแบบดิจิตอล
ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต
ข้อเสีย คือมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up

3. การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line)
เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน
ข้อดี คือมีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN
ข้อเสีย คือไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้

4.การเชื่อมต่อแบบ Cable
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้
ข้อดี คือถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้
ข้อเสีย คือถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง

5.การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites
ข้อเสีย ของการเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) ได้แก่
-ต้องส่งผ่านสายโทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ
-ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำมากเมื่อเทียบกับ










วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

ใบงาน 10 รูปแบบคำสั่ง HTML,ตัวอย่างคำสั่ง


รูปแบบคำสั่ง HTML

รูปแบบของ tag แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. tag เดี่ยว
คือ รูปแบบค าสั่งที่มีเพียงค าสั่งเดียวหรือมีเพียงแท็กเดียว ก็สามารถใช้งานได้ เช่น <br>
2. tag คู่
คือ รูปแบบค าสั่งที่เป็นสองส่วน คือ มีส่วนเริ่มต้นและต้องมีส่วนจบของค าสั่งถึงจะสามารถท างานได้
สมบูรณ์ โดยส่วนจบของแต่ละค าสั่งจะมีเครื่องหมาย Slash (/) ไว้หน้าแท็กค าสั่งนั้น เช่น
<html>......</html>
tag คู่ มีทั้งหมด 4 แท็ก คือ
1. <html>...</html>
2. <head>....</head>
3. <title>....</title>
4. <body>....</body>
tag เดี่ยว มีทั้งหมด 1 แท็ก คือ <br>
tag คำสั่งหลัก ของการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา HTML
การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา HTML จะมีโครงสร้างและการจัดวางค าสั่งหลักที่เป็น
มาตรฐานเหมือนกันทั่งโลก โดยจะประกอบด้วยค าสั่งหลักๆ อยู่ 4 ค าสั่งด้วยกัน ดังนี้
1. <html>........</html>
เป็นค าสั่งที่ท าหน้าที่บอกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเอกสาร HTML
2. <head>........</head>
เป็นค าสั่งที่ท าหน้าที่ก าหนดส่วนหัวเรื่อง
3. <title>.........</title>
เป็นค าสั่งที่ใช้ก าหนดข้อความที่ต้องการน ามาแสดงผลบนแถบ Title Bar ค าสั่งนี้จะอยู่ภายในค าสั่ง
ส่วน <head>......</head> โดยก าหนดความยาวของตัวอักษรไม่เกิน 64 ตัวอักษร
4. <body>.........</body>
เป็นคำสั่งที่กำหนดข้อความและรูปแบบของค าสั่งต่างๆ ที่ใช้ส าหรับปรับแต่งเอกสารที่จะน าเสนอออก
ทางส่วนแสดงผลหลักของ Web Browser

ตัวอย่างคำสั่ง










ใบงานที่ 9 ความหมายของ HTML



ความหมายของ HTML

HTML หรือ HyperText Markup Language เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีโครงสร้างการเขียนโดยอาศัยตัวกำกับ (Tag) ควบคุมการแสดงผลข้อความ, รูปภาพ หรือวัตถุอื่นๆ ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์ แต่ละ Tag อาจจะมีส่วนขยายที่เรียกว่า Attribute สำหรับระบุ หรือควบคุมการแสดงผล ของเว็บได้ด้วย
HTML เป็นภาษาที่ถูกพัฒนาโดย World Wide Web Consortium (W3C) จากแม่แบบของภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) โดยตัดความสามารถบางส่วนออกไป เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย และด้วยประเด็นดังกล่าว ทำให้บริการ WWW เติบโตขยายตัวอย่างกว้างขวางตามไปด้วย



วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 7 เรื่องการเขียนผังงาน ( Flow Chart )

  การเขียนผังงาน

1.ความหมายของผังงาน ?
ตอบ  รูปภาพ (Image) หรือสัญลักษณ์(Symbol) ที่ใช้เขียนแทนขั้นตอน คำอธิบาย ข้อความ หรือคำพูด ที่ใช้ในอัลกอริทึม (Algorithm) เพราะการนำเสนอขั้นตอนของงานให้เข้าใจตรงกัน ระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ด้วยคำพูด หรือข้อความทำได้ยากกว่าการใช้ผังงาน ผังงาน เป็นเครื่องมือแสดงขั้นตอน หรือกระบวนการทำงาน โดยใช้สัญลักษณ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งในสัญลักษณ์จะมีข้อความสั้น ๆ อธิบายข้อมูลที่ต้องใช้ ผลลัพธ์ หรือคำสั่งประมวลผลของขั้นตอนนั้น ๆ และเชื่อมโยงขั้นตอนเหล่านั้นด้วยเส้นที่มีลูกศรชี้ทิศทางการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ [1]p.208
ผังงานแบ่งได้ 2 ประเภท
1.1 ผังงานระบบ (System Flowchart)
คือ ผังงานที่แสดงขั้นตอนการทำงานในระบบอย่างกว้าง ๆ แต่ไม่เจาะลงในระบบงานย่อย
1.2 ผังงานโปรแกรม (Program Flowchart)
คือ ผังงานที่แสดงถึงขั้นตอนในการทำงานของโปรแกรม ตั้งแต่รับข้อมูล คำนวณ จนถึงแสดงผลลัพธ์


2.ลักษณะผังงาน ?
ตอบ สัญลักษณ์เหล่านี้เมื่อถูกนำมาเชื่อมต่อกัน จะกลายเป็น "ผังงาน (Flowchart)" ที่แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานเพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดลำดับความคิดเห็นลำดับขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน




ใบงานที่ 6 เรื่อง การเขียนรหัสจำลอง ( Pseudo Code )

  การเขียนรหัสจำลอง ( Pseudo code )

ตอบ  การเขียนรหัสจำลอง (Pseudo Code ) คือ การเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้โดยทันที แต่ก็สามารถใช้รูปแบบที่เป็นภาษาพูดด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็ได้โครงสร้างของรหัสจำลองเริ่มต้นด้วยข้อความ Begin แล้วอธิบายขั้นตอนการทำงานโดยใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับภาษาคอมพิวเตอร์ในการเขียนโปรแกรม เช่น
คำสั่ง read หมายถึง การอ่านค่าหรือรับค่าข้อมูลตัวแปรตามที่กำหนดไว้
คำสั่ง print หมายถึง การแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณ
และพิมพ์ข้อความ End เมื่อจบการทำงานการเขียนรหัสจำลองจะต้องมีการวางแผนสำหรับการอ้างอิงถึงข้อมูลที่จะต้องนำไปใช้ภายในโปรแกรมด้วยการสร้างตัวแปร โดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (= ) แทนการกำหนดค่าตัวแปร 


ใบงานที่ 5 เรื่อง อัลกอริทึม ( Algorithm )

     อัลกอริทึม ( Algorithm )

1.อัลกอริทึม ( Algorithm ) หมายถึง ?

ตอบ เป็นวิธีการ และขั้นตอนของการควบคุมการปฏิบัติงานตามหน้าที่ อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวอย่าง algorithm เช่น เครื่องปรุงอาหาร ในหนังสือวิธีทำกับข้าว จัดว่าเป็น algorithm ได้อย่างหนึ่ง กล่าวคือ จะบอกวิธีว่า แกงชนิดนั้นมีเครื่องปรุงอะไรบ้าง และมีวิธีปรุงอย่างไร ใส่อะไรก่อน อะไรหลัง เป็นต้น



2.ลักษณะของ อัลกอริทึม ( Algorithm ) ?

ตอบ กระบวนการแก้ปัญหาที่สามารถอธิบายออกมาเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน เมื่อนำเข้าอะไร แล้วจะต้องได้ผลลัพธ์เช่นไร กระบวนการนี้ประกอบด้วยจะประกอบด้วย วิธีการเป็นขั้นๆ และมีส่วนที่ต้องทำแบบวนซำอีก จนกระทั่งเสร็จสิ้นการทำงาน 
Algorithm ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นชุดคำสั่งที่ทำให้ได้คำตอบ วิธีการในการอธิบาย Algorithm ได้แก่
1. Natural Language อธิบายแบบใช้ภาษาที่เราสื่อสารกันทั่วไป
2.Pseudocode อธิบายด้วยรหัสจำลองหรือรหัสเทียม
3.Flowchart อธิบายด้วยแผนผัง




 

วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 4 เรื่อง การดำเนินการแก้ปัญหา การตรวจสอบ เเละ ปรับปรุง

  การดำเนินการแก้ปัญหา ตรวจสอบ เเละ ปรับปุง

1.การตรวจสอบเเละการปรับปรุงโดยผู้ออกแบบ





2.การตรวจสอบโดยผู้ใช้งานจริง






ใบงานที่ 3 เรื่อง การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอน

   การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอน

1.การเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา : การกำหนดทรัพยากรที่ต้องใช้ในการแก้ปัญหา

   





2.การออกแบบขั้นตอนในการปฏิบัติงาน : เป็นการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาก่อนปฏิบัติจริง โดยจะต้องกำหนดแนวทางเเละขั้นตอนการปฏิบัติงานเป็นลำดับขั้น เเละจึงนำมาระบุผู้รับผิดชอบและระยะเวลาการปฏิบัติงานในตารางปฏิบัติงาน



ใบงานที่ 2 เรื่องการวิเคราะห์เเละกำหนดรายละเอียดของปัญหา

มีวิธีการดังนี้

   1.วิเคราะห์สิ่งที่ต้องการโดยวิเคราะห์ว่าต้องการเเก้ปัญหาอะไร ผลผลิคอะไรหรืองานอะไร เเล้วกำหนดวัตถุประสงค์ของสิ่งที่ต้องการนั้น ยกตัวอย่างต้องการแก้ปัญหาการขาดทุนของร้านเช่าหนังสือ



   2.วิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ต้องการโดยวิเคราะห์สิ่งที่คาดว่าจะได้รับจากการแก้ปัญหาในสิ่งที่ต้องการมากกว่า1ข้อ เช่น มีความสะดวกรวดเร็วในการเช่าหนังสือ ป้องกันไม่ให้หนังสือหาย มีกำไรมากยิ่งขึ้น


   3.วิเคราะห์ทรัพยากรโดยคำนึงทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาซึ่งควรเป็นทรัพยากรที่มีอยู่เเล้วเป็นหลัก เช่น วัสดุอุปกรณ์ ความรู้ของบุคลากร เเรงงานและงบประมาณ


   4.วิเคราะห์ตัวแปรหรือผลกระทบในด้านต่างๆ เช่น ทำไมหนังสือสูญหาย พนักงานไม่มาทำงานบ่อย


  5.วิเคราะห์วิธีการแก้ปัญหา เช่น เก็บค่าสมาชิกสูงขึ้น โดยผ่านกระบวนการความคิด เช่น ทำได้ จิงหรือไม่จะได้ผมลัพธ์ที่ดีหรือไม่

วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

My Profile

ประวัติส่วนตัว





ชื่อ นายธิติ    ฉี๋   ชื่อเล่น เปา
เกิดวันที่ 18 กรกฏาคม พศ.2543
อายุ 16 ปี
หมู่เลือด โอ
ศึกษาที่ โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
ที่อยู่ 101/44 หมู่7 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง
เรียนอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/5 อยู่สายศิลป์ภาษาจีน
สิ่งที่ชอบ เล่นกีฬาปิงปอง สิ่งที่ไม่ชอบ การฟังเพลง
งานอดิเรก เล่นกีต้าร์
ความฝันในอนาคต อยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ

ใบงานที่1 เรื่อง กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ

กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ


ข้อ1.ความหมายของกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตอบ กระบวนการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อกระทำให้เป็น
สารสนเทศ
การจัดเก็บและการนำเสนอสารสนเทศให้เป็นปัจจุบันทันต่อเหตุการณ์


ข้อ2.ขั้นตอนของกระบวนการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ตอบ มี 6 ขั้นตอน 

1.การรวบรวมข้อมูล วิธีการดำเนินการเพื่อเก็บข้อมูลเเละบันทึกข้อมูล
2.การตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบเพื่อหาข้อผิดพลาดหรือความสมเหตุสมผล
3.การประมวลผลข้อมูล วิธีการดำเนินการกระทำข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
4.การจัดเก็บข้อมูล การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อบริหารรูปแบบต่างๆ
5.การคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนการดำเนินการเพื่อสรุปความสำคัญของข้อมูล
6.การนำข้อมูลไปใช้  การนำข้อมูลไปใช้ในลักษณะต่างๆ

ข้อ3.การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตอบ 1.การวิเคระห์เเละกำหนดรายละเอียดของปัญหา
2.การเลือกเครื่องมือเเละออกแบบขั้นตอน
3.การดำเนินการเเก้ไขปัญหา
4การตรวจสอบเเละปรับปรุง






เว็บไซต์ตัวอย่างโครงงาน

1.เว็บไซต์ตัวอย่าง 5 เว็บ 1.1 http://www.kroobannok.com 1.2  http://www.kanzuksa.com/ 1.3 http://www.thaiteachers.tv/ 1.4  http://w...